วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Facfic One Ok Rock [Toru x Taka] : Pray to the moon and the stars


 
 
 
Pray to the moon and the stars
 






ทากะฮิโระคิดว่ายามาชิตะ โทรุ เหมาะกับผมสีทอง
 

มันทำให้เขาดูราวกับพระจันทร์ที่อาบย้อมด้วยเปลวเพลิง ท่ามกลางความมืดที่คลอบคลุมพื้นที่คอนเสิร์ต แสงไฟริบหรี่จากแท่งไฟของแฟนคลับและเวที ล้อมรอบเหมือนกับดาว ชายหนุ่มเคลื่อนไหวไปพร้อมกับกีร์ต้า บรรเลงทำนองเคียงคู่กับเสียงของเขา ทุกครั้งที่หันไปจะเห็นชายหนุ่มกระตุกยิ้มให้เล็กๆ ทากาฮิโระขึ้นเสียงสูง คล้ายกับจะกู่ร้องให้ถึงสวรรค์ โทรุก็เช่นกัน แต่เขาส่งมันผ่านดนตรี

 
ทากะฮิโระคิดถึงอดีตชั่วครู่หนึ่ง ตอนที่ทำนองค่อยๆ คลายตัวลงแล้วมีเวลาพักเสียง กุมไมค์พลางจินตนาการภาพซ้อนทับของเมื่อหลายปีก่อน ที่ตรงหน้าเวทีไม่ใช่แฟนคลับจำนวนมาก แต่เป็นนักท่องกลางคืนและโต๊ะอาหาร บรรยากาศมืดสลัวคล้ายกันแต่เต็มไปด้วยกลิ่นสุรา ทากะฮิโระก้มหน้าร้องเพลง รองเท้าไม่ได้น่าสนใจ แต่ดีกว่ามองไปทางข้างหน้าที่มัวหม่น
 

“ทำไมเอาแต่มองพื้นล่ะ”
 

เขาเงยหน้ามอง โทรุในตอนนั้นยังมีผมสีดำ ใบหน้านิ่งเฉย แม้แต่ดวงตาที่แสดงความสนใจยังดูโปนดุ เขาคิดว่าโทรุตาค่อนข้างโปน
 

พูดอีกสองสามประโยคแล้วตบท้ายด้วยคำว่า “ถ้าไม่สนุก ก็มาเล่นกับฉัน”
 

อวดดีและน่ารำคาญ
 

เหมือนคิ้วจะเลิกขึ้นข้างหนึ่งเป็นเชิงถาม ยามาชิตะ โทรุ เป็นลูกค้า เขาทำเมินไม่ได้ แต่หมอนี้ตื้ออย่างดื้อดึงให้ไปร่วมทำวงดนตรีมาได้พักหนึ่งแล้ว อีเมลล์โดนถล่มนับร้อยฉบับ เขาอ้าปากจะปฏิเสธต่อ แต่นักดนตรีด้านหลังเริ่มบรรเลงตัวโน๊ตแล้ว นึกโมโหอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อเพลงมาก็เริ่มเปล่งเสียง ก้มหน้ามองรองเท้าเช่นเดิม
 
 

ต่างจากปัจจุบันที่ตอนนี้ทำนองเริ่มไต่ระดับสูง ทากาฮิโระมองไปข้างหน้าที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยับ ถึงจะมืดแต่ก็มองเห็นทาง ขอบคุณความดื้อของอีกฝ่ายที่ทำให้เขายืนอยู่ตรงนี้
 

ขอบคุณที่กระชากออกจากฝันร้าย
 

ดวงตาสบกันอย่างรู้ความหมาย ทากาฮิโระร้องท่อนฮุกของเพลง notes ‘n’ word ขณะจ้องตาเพื่อนร่วมวง อีกครั้งที่โทรุยิ้มตอบรับน้อยนิดกลับมาซึ่งดูกวนประสาทเหลือทน ถ้าไม่ได้อยู่บนเวทีเขาคงหาทางทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายสักป้าบ แต่คิดอีกแง่...แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

 
 

โทรุเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของทากะฮิโระ เขานึกชื่นชมความเหมาะเจาะได้รูปที่แฝงส่วนที่ไม่สมบูรณ์แบบ ผมที่ตัดสั้น รอยสักบนแขน เสียงที่แหลมก้องเหมือนระฆัง มันอ่อนโยนในความรู้สึกเมื่อเจ้าตัวสบตาเขาด้วยดวงตาที่เศร้าล้ำลึก ริมฝีปากวาดยิ้ม
 

ช่างเป็นเพลงร็อคที่หวานเสียนี่กะไร เหมือนน้ำตาลไหม้ เป็นความรักที่ผสมไปกับเสียงของกีร์ต้า กลอง และเบส ผสานกลมกลืนกับเสียงร้อง มันคือเพลงที่งดงาม แม้ว่าพระเจ้าจะไม่มีวันได้ยิน
 

น้ำตานายไหลนะทากะ
 

โทรุบอกด้วยสายตา
 
เจ้าคนอ่อนไหว มักจะเสียน้ำตาได้ง่าย เขาเข้าใจในอารมณ์ศิลปินของอีกฝ่ายดี แต่สาเหตุของการร้องไห้มาจากจิตใจที่ดีงาม และความเจ็บปวดในอดีตด้วย
 

เขาก้มลงมองปลายเท้าเหมือนใครบางคนเมื่อก่อน แต่มองเพื่อซ่อนยิ้ม เพลงยังคงบรรเลงตลอดคืนฤดูหนาว นอกตึกคงถูกหิมะทับถม

 


“ผ่านไปด้วยดี” โทรุกล่าวทักคนที่ออกมายืนพิงระเบียงทั้งที่อากาศหนาว จุดไฟแช็กติดปลายบุหรี่แล้วพ่นควัน
 

“อืม” ครางรับสั้นๆ ไม่แสดงท่าทีรังเกียจบุหรี่แม้ตนไม่สูบ
 

“วันนี้วันสิ้นปี อีกไม่กี่นาทีจะปีใหม่แล้ว”
 

“อ่าฮะ ฉันรู้น่า” ทากะฮิโระดูนาฬิกา “ใกล้จะนับถอยหลังแล้วแหละ”
 

สิบ...เก้า...แปด...เจ็ด
 

เสียงนับดังมาจากบริเวณใกล้เคียง เมืองโตเกียวยังคงไม่หลับใหล
 

แสงไฟทำให้ผมสีทองของโทรุเปล่งประกาย ดวงตาดำขลับมองเขาด้วยแววมั่นคง ให้สัญญา
 

“คิดจะทำอะไรน่ะเจ้าบ้า”
 

“นายก็รู้”
 

โทรุตอบ เขาดึงแท่งบุหรี่ออก ก้มหน้าลง ทากาฮิโระถอนหายใจก่อนจะหลับตา  
 

หก...ห้า...สี่...สาม...สอง...หนึ่ง        
 

พลุถูกจุดขึ้นฟ้า ราตรีสว่างไสว โทรุถอนริมฝีปากออก เขาหันไปมองดอกไม้ไฟที่กระจายตัวสวยงาม มือวางทับนิ้วเย็นเฉียบของทากาฮิโระบนระเบียง
 

อีกครั้งที่หนทางข้างหน้าแจ่มชัด พระจันทร์และดาวส่องแสง เพลงรักประสานกลืนแผลแห่งอดีต
 

พวกเขาต่างอธิฐานต่อปัจจุบันและอนาคตที่งดงาม