วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559

Fanfic Gintama [Hijikata x Gintoki] : ว่าด้วยเรื่องฟิค และคู่จิ้น




Short fiction  : ว่าด้วยเรื่องฟิค และคู่จิ้น
Author : froridy
Relationships : Hijikato Toshiro x Sakata Gintoki
Fandom  : Gintama
Warning  : Yaoi
Note : เกรียนและบ้าไปตามประสา
Summary: คอนโดจัดงานประกวดการแข่งขันแต่งฟิคชั่นขึ้นในหน่วยชินเซ็นกุมิ และกินโทกิไปเป็นกรรมการตัดสิน




“นั่นคุณกินกำลังทำอะไรน่ะครับ” ชินปาจิถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นนายจ้าง (ที่ไม่เคยจ่ายเงินเดือน) กำลังขะมักเขม้นอยู่กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เลื่อนเม้าท์อ่านตัวอักษรบนจอแล้วครางออกมาอย่างรับไม่ได้
“ให้ตายเถอะ ฉันล่ะไม่เข้าใจพวกสาววายจริ๊งจริง”
“อะไรล่ะครับ เกี่ยวอะไรกับสาววายล่ะครับ อย่าบอกนะว่าคุณกินอ่านฟิคอยู่...” ทำหน้าเคลือบแคลงสงสัยปนขยะแขยง “ผมไม่นึกเลยว่าคุณกินจะมีรสนิยมเสพของแนวนี้ด้วย”
“จะบ้าเราะ ฉันก็แค่สงสัยว่าทำไมมันเป็นที่นิยมกันจัง”
“มันก็เป็นประโยชน์กับธุรกิจของเราเหมือนกันน่อ ต่อไปเราก็จัดมีตติ้งคู่จิ้นฮิจิกินซะเลยน่อ” เด็กหมวยเสนอความเห็น     ชินปาจิทวนคำว่า ฮิจิกินช้าๆ แล้วเบิกตาโต ในขณะที่กินโทกิสำลัก
“ก็แล้วทำไมต้องฮิจิกินด้วยฟะ?
“ก็ลื้ออ่านคู่ฮิจิกินอยู่นี่ เห็นอ่านมาสิบกว่าเรื่องละ ติดใจอะไรน่อ...อ่อ สงสัยอยากเป็นเค
กินโทกิเอามืออุดปาก “หยุดพล่ามซะทีหล่อน จะว่าไป...แกว่าฉันรูปร่างเป็นยังไง” หันไปถามชินปาจิ ซึ่งขมวดคิ้วยุ่งๆ ใส่กองผ้าอยู่ แถมยังคิดว่าคำถามของนายจ้างหัวหยิกนั้นไร้สาระมาก
“ก็...” พิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า “ก็ตัวสูงปานกลางครับ หุ่นพอดีๆ มีกล้าม ถึงตอนนี้จะแอบอ้ว--
“พอๆ” ไอ้แรกๆ ก็ดีใจอยู่หรอก แต่คำหลังแม้ยังพูดไม่ครบคำ เขาก็เดาออกว่ามันเป็นคำที่หญิงสาวทั่วโลกผลักไล่ไส่ส่ง “ให้เลือกระหว่างหนากับบาง หุ่นฉันอยู่ฝั่งไหน”
“อา...” รู้สึกปวดหัวตงิดๆ แต่ก็ยอมตอบให้อีกฝ่ายสบายใจ จะได้หยุดถามบ้าๆ เสียที “ไม่หนาไม่บางครับ แต่ถ้าให้เลือกอย่างเดียวก็ค่อนไปทางหนา”
“เห็นมะ!” ตบโต๊ะผาง มืออีกข้างปล่อยคางุระที่สำลักไอโขลก “ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมในฟิคฉันถึงกลายเป็นร่างบางไปได้ บางตรงไหน เนี่ย ดูกล้ามฉัน” พยายามอวดเบ่งเต็มที่ ชินปาจิส่ายหน้า
“อาจจะเป็นคำเรียกแทนตำแหน่งเฉยๆ ก็ได้นะครับ อย่าไปคิดมากเลย”
“คำอื่นก็มีให้ใช้ตั้งเยอะแยะ ร่างสูงสมส่วนเงี้ย กินโทกิสุดหล่อไรเงี้ย” บ่นกะปอดกะแปด
“คำหลังไม่ใช่น่อ อากินจัง”
“เงียบปากไปยัยหมวย”
“คนบ้าน้ำตาลหัวหยิกเหมือนฝอยขัดหม้อ...” ชินปาจิแอบแต่งคำแทนสถานะให้โดยเอ่ยเบาๆ แต่โชคร้ายกินโทกิได้ยิน แคนดี้แท่งหนึ่งถูกปาใส่หัวเขาอย่างจัง
                “โอ้ย”
“นี่ด้วยๆ หน้าสวยหวานเนี่ย สวยตรงไหน ฉันรับม่ายด้ายยย”
“ใช่แล้วน่อ บรรยายว่าไอ้ถึกหน้ามึนเหมือนปลาตายยังจะตรงกับความจริงเสียกว่า”
“สุดหล่อต่างหากเฟ้ย! บรรยายว่าสุดหล่อสิฟะ”
“ดูเหมือนว่าคุยเรื่องสนุกๆ กันอยู่สินะครับลูกพี่” โอคิตะเลื่อนประตูหน้าสำนักงาน ทักทายด้วยน้ำเสียงปกติธรรมดา แต่แววตามีเลศนัยน์
จะโผล่หัวมาทำไมตอนนี้วะ...
“มาทางไหน ไสตูดกลับไปทางนั้นเลยอาตี๋” คางุระไล่ เขวี้ยงขนมในจานของนายจ้างใส่เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักซึ่งหลบหลีกอย่างว่องไว แล้วกระโดดตัวลอย โจมตีใส่เด็กสาวด้วยท่าทางที่ไม่น่ารักเหมือนหน้าตา
“พอๆ ร้านฉันพังหมดแล้ว มีอะไรก็ว่ามา” กินโทกิรีบห้ามทัพ พยักเพยิดให้ชินปาจิล็อคแขนคางุระไว้สุดแรง
โอคิตะปัดฝุ่นที่เลอะจากการต่อสู้เมื่อครู่ออกจากชายเสื้อ “ผมเอางานและเงินมาให้ลูกพี่ครับ”
คำว่าเงินทำให้กินโทกิลืมความหงุดหงิดจากฟิควาย และเหตุการณ์เมื่อครู่ไปได้บ้าง
“งานอะไร ว่ามา”
“พอดีว่าหน่วยชินเซ็นกุมิจะเขียนฟิคประกวดกันน่ะครับ เป็นกิจกรรมเสริมสร้างจินตนาการ ความบันเทิง และความสามัคคีที่คุณคอนโดคิดขึ้น โดยมีกติกาว่าให้นำสมาชิกในหน่วยหรือคนรู้จักสนิทสนมกันดี เช่น พวกลูกพี่ พวกอาเจ๊โอทาเอะ โยชิวาระ เป็นต้น มาเขียนเป็นฟิคโดยจะผูกพล็อตแบบไหนก็ได้ และกรรมการตัดสินผู้ชนะในครั้งนี้ก็คือลูกพี่ครับ”
“หา?” อ้าปากพะงาบๆ “ให้ฉันไปเป็นกรรมการตัดสินฟิคของพวกตำรวจเนี่ยนะ”
“ใช่ครับ เงินดีนะ แต่ถ้ารุ่นพี่ไม่สนใจ...”
“เดี๋ยวๆ ฉันยังไม่ได้ปฏิเสธเว้ย ว่าแต่ทำไมต้องเป็นฉันวะ”
โอคิตะทำหน้าซื่อ เอานิ้วชี้ขึ้นจุ๊ปาก “อย่าเอะอะไปนะครับลูกพี่ พอดีลูกพี่เป็นตัวละครที่ถูกนำไปเขียนฟิคเยอะที่สุดเลยน่ะ”
“หา? ฉันเนี่ยนะ คงไม่มีใครบ้าเอาฉันไปเขียนคู่กับไอ้บ้ามายองเนสนั่นนะ...”
“โอ้ นั่นล่ะครับ คู่ยอดนิยมเลย ฮิจิกิน กินฮิจิ บางทีมีการผนวกผมเข้าไปด้วย เป็นสามพีเลยก็มีครับ”
กินโทกิทำหน้าแหยง สักครู่ต่อมาเขาก็ถอนหายใจ “ประกวดกันวันไหนน่ะ”
“อีกยี่สิบนาที รีบไปถึงก่อนตัดริบบิ้นเปิดงานดีกว่าครับ”



และกินโทกิก็ซ้อนมอเตอร์ไซด์หัวหน้าหน่วยที่หนึ่งมาจนถึงชินเซ็นกุมิ เดินตามเด็กหนุ่มเข้าไปที่ห้องประชุมใหญ่ตำรวจทุกคนในหน่วยนั่งหน้าถมึงทึงอยู่ตรงโต๊ะเล็กแบบตั้งพื้น บนโต๊ะมีแล็บท็อป รองหัวหน้าหน่วยก็นั่งอยู่ในบรรดาคนเหล่านี้เช่นกัน โอคิตะเองก็ไปนั่งประจำตรงโต๊ะที่ว่าง เขาต้องร่วมแข่งขันด้วยตามกฎ
“แหม...ความจริงฉันก็อยากแต่งฟิคคอนโดโอทาเอะบ้างจังเลยน้า...แต่เอาเถอะ วันนี้ฉันเป็นพ่องาน กฎกติกาไม่มีอะไรมาก แค่คิดเอง แต่งเอง ห้ามลอกคนอื่น ตัวละครมาจากคนในหน่วยไม่ก็คนที่สนิทสนมกับหน่วย เสร็จแล้วเซฟส่งมาที่อีเมลล์ที่วางอยู่บนโต๊ะ” กินโทกิเหลือบตามองกระดาษแผ่นเล็กๆ ตรงมุมโต๊ะขวามือของผู้เข้าแข่งขัน “มันจะถูกส่งเข้าที่คอมตรงหน้ากรรมการผู้ตัดสิน เอาล่ะ ขอเปิดการแข่งขันเพื่อความบันเทิง ณ บัดนี้”
คอนโดหยิบสายริบบิ้นมาตัดอย่างไม่ลงทุน กินโทกิเห็นฮิจิคาตะถอนหายใจ ก่อนจะเริ่มพิมพ์ต๊อกแต๊กบนแป้นคีบอร์ด ตรงหน้ากินโทกิเองก็มีคอมพิวเตอร์เช่นกัน เขาแค่รอให้มีอีเมลล์ส่งเข้ามา อ่านแล้วให้คะแนน คนที่ได้คะแนนจากเขามากที่สุดเป็นผู้ชนะ และมีเงินรางวัลจำนวนหนึ่งซึ่งสบทบทุนโดยป๋ามัตสึไดระจัดเตรียมไว้ให้
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง กินโทกิหาวหวอด ยังไม่มีอีเมลล์ส่งเข้ามา
สิบนาทีต่อมาอีเมลล์ฉบับแรกเด้งขึ้น คอนโดทิ่มเอวของคนผมเงินให้ลืมตาขึ้นดูความเคลื่อนไหว

“อะไรวะเนี่ย? คอนโด x มาดาโอะ คู่ -ตื้ด- อะไรวะเนี่ยยย”
“อย่าดูถูกคู่ชิปของคนอื่น” คอนโดเตือนเสียงขรึม
เดี่ยวนะ...ทำไมแกทำหน้าดีใจที่มีคนเอาแกไปจิ้นกับไอ้มาดาโอะฟะ?!
“มัตสึไดระ x คอนโด โอ้โห...ล้ำ” กินโทกิพึมพำ คอนโดบิดไปบิดมาอย่างเขินอาย “เราก็แค่รักกันเหมือนพ่อลูกเท่านั้นแหละตัวเอง...”
กินโทกิกลอกตา เอานิ้วแคะหูไม่ยี่หระ
“โอคิตะคางุระ  แหม...มีคนจิ้นเจ้าพวกนี้ด้วยแฮะ ยัยตัวร้ายกับนายซาดิสเราะ ชื่อเกาลี้เกาหลีว่ะ”
อ่านสามเรื่องแรกแล้วส่ายหน้า สำนวนการเขียนเรียงอักขระแทบไม่รู้เรื่อง
เรื่องถูกส่งมาเรื่อยๆ คาซึระ ทากาสึงิ ก็มากับเขาด้วย มีฮิจิกินกับกินฮิจิค่อนข้างเยอะในปริมาณเท่าๆ กัน อันที่จริงกินโทกิพอใจกับคู่กินฮิจิมากกว่า เขาได้เมะใส่ไอ้บ้ามายองเนสนั่น ได้อยู่เหนือมันเว้ยย
แต่ด้วยความจำใจยุติธรรม เขาจึงต้องเปิดอ่านคู่ฮิจิกินด้วย
“โหย นี่ฉันบอบบางขนาดโดนไอ้บ้านั่นข่มเหงเลยเราะ” พึมพำอย่างไม่พอใจสุดขีด ปิดและกดเปิดเรื่องใหม่
“ค่อยๆ ควักลูกตา เหยียบขยี้เละติดพื้น เอาขวานจามหัวแบะ ...ของเจ้าเด็กซาดิสนั่นแหงๆ”
เลื่อนมาจนถึงอีเมลล์ฉบับสุดท้าย เขารีบกดอ่านให้ผ่านๆ ไปเสียที จะได้ตัดสินให้เสร็จ
“ความในใจที่ไม่อาจเอื้อนเอ่ย...ฮิจิกิน คู่นี้อีกแล้วหรอ ให้ตาย” บ่นพึมพำ จะว่าไปสำนวนการเขียนก็ใช้ได้แฮะ


เป็นความรู้สึกที่ผมบรรยายออกมาได้เพียงสั้นๆ อันที่จริงผมไม่อยากจะเอ่ยออกมาด้วยซ้ำ แต่เพราะผมไม่รู้ว่าจะสื่อไปถึงหมอนั่นยังไง
อาจจะน่ารักคาญไปบ้าง แต่ถ้าคุณช่วยรับฟังสักนิดก็คงจะดี...
แรกพบผมเกลียดหมอนั่น เจ้ายาจกหน้าปลาตายตาแดงผมเงิน ไม่มีอะไรทำให้ผมรู้สึกดีสักนิด
แต่หมอนั่นเก่ง...และผมขอสารภาพอย่างคับแค้นใจว่าผมเคยแพ้หมอนั่นในดาบเดียว
อดีตชิโรยาฉะแห่งกองทัพอสุรา...ฟังดูเท่ใช่มั้ยล่ะ แต่ตอนนี้หมอนี่ก็เป็นแค่ตาลุงแก่ๆ บนชั้นสองของบาร์เท่านั้นแหละ วิ่งทำงานสารพัดจ้างงกๆ ได้เงินมาก็ไปเสียให้ของไร้สาระหมด โดยเฉพาะน้ำตาลบ้าๆ กินเข้าไป ขอให้เป็นโรคเบาหวานตายเถอะ


“ไอ้นี่มันด่าฉันเยอะจังเฮ้ย” กินโทกิบ่น แต่เขาก็ยังคงอ่านบรรทัดต่อไป


จะว่าไปผมก็ร่วมฝ่าฟันกับหมอนั่นมาเยอะเหมือนกัน ไม่รู้เพราะเราจ้างมันมาทำงานบ่อย หรือเพราะมันมีนิสัยขี้เสือกกันแน่


“ไอ้บ้านี่...อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร” กินโทกิคาดโทษ และอ่านต่อ


อ่า...รู้ตัวอีกทีผมก็ตกหลุมรักกินโทกิไปแล้ว


กินโทกิสะดุ้ง เขารู้สึกหน้าร้อนๆ  เดี๋ยวนะ ทำไม่ต้องเขินด้วยเนี่ย! ก็แค่ฟิคๆ


ผมเตือนตัวเองหลายครั้งว่ามันเป็นผู้ชายตัวเท่าๆ กับผม หน้ามึนๆ ถึงแม้ตอนมันกลายเป็นผู้หญิง (และผมกลายเป็นหมูตอน) มันจะสวยน่ารักชนิดที่ชายทุกคนต้องเหลียวมองก็ตาม (แต่ขอโทษทีที่ตอนนั้นผู้ชายก็กลายเป็นกะเทยกันทั้งเมือง เลยไม่มีใครสนใจมัน) โอเค มันเป็นผู้ชาย เป็นซามูไรขี้เกียจ กวนประสาท หน้าด้าน เกรียนแตก ...แต่
ผมก็ตกหลุมรักกินโทกิไปแล้ว ขอยืนยันคำเดิม
ผมชอบเขาไม่ว่าจะตอนทำตัวบ้าบอ (แน่นอนว่าผมเก๊กสีหน้าบึ้งตึงแทบแย่ จริงๆ ผมอยากยิ้มให้มากๆ เลยนะ)
ตอนที่อยู่กลางสนามรบ กวัดแกว่งดาบไม้
ตอนที่ท่องไปในย่านคาบูกิโจวอย่างคนไร้จุดหมาย
ตอนที่ถังแตก ต้องแต่งตัวเป็นกะเทยถึก
ตอนที่เถียงคำไม่ตกฟาก เวลาจับมันได้ทุกครั้งจากบ่อนพนัน
หรือตอนที่มาไถตังผมหน้าตาเฉย เพราะอยากกินขนมหวาน
ตอนที่โกรธ เคียดแค้น เศร้า เฉยเมย และมีความสุข
ผมรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นกินโทกิ
ผมอยากจะบอกให้เขารู้

กินโทกิ
.
.
.
ฉันรักนายนะ ไอ้บ้าหัวหยอง
จาก เทพเจ้าแห่งมายองเนส



กินโทกิเงยหน้าขึ้นจากคอม แก้มแดงเถือก มันเป็นแค่ฟิคใช่ไหม แค่ฟิคใช่ม้ายย
มีอีเมลล์ส่งเข้ามาอีกฉบับหนึ่ง ไม่ใช่ฟิคแต่อย่างใด


คบกับฉันนะ



ท่านรองปีศาจเองก็หน้าแดงเช่นกัน กินโทกิกระแอม เขาข้ามเรื่องนี้ไปก่อน แล้วประกาศผลตัดสินให้ฟิคคู่ยามาซากิ กับ ทามะ เป็นผู้ชนะ เพราะพล็อตดีสุด องค์ประกอบหรือภาษาสละสลวยสุด  คนเขียนซึ่งก็คือยามาซากิเอง ดีใจมาก เดินออกมารับรางวัลจากคอนโด
“หมดหน้าที่ฉันแล้ว กลับนะ” กินโทกิบอกลาคอนโด รับค่าจ้าง แล้วเดินจ้ำอ้าวออกไปจากห้องประชุม ฮิจิคาตะหน้าเสีย ทว่ากลับมีเมลล์ส่งเข้าโทรศัพท์มือถือเขาแทน

ไม่รู้จักคำว่าเป็นขั้นเป็นตอนรึไง ถ้าอยากจะคบต้องจีบก่อนเว้ย

ก็จำไม่ได้หรอกนะว่ามันมีเบอร์เขาได้ยังไง
แต่ตอนนี้หัวใจยิ่งกว่าพองโตอีกว่ะ





หลายวันต่อมาที่สำนักงาน กินโทกิกำลังท่องเว็บอ่านฟิคอยู่เช่นเคย
“อากินจัง มีดอกไม้ส่งมาอีกแล้วน่อ”
กินโทกิส่ายหน้า ตะโกนบอก “เอาไปขายต่อเลยยัยหมวย”
คางุระโผล่เข้ามาบอกด้วยน้ำเสียงล้อเลียนว่า “แต่คราวนี้คนส่งมาด้วยน่อ”
ร่างสูงในชุดเครื่องแบบของชินเซ็นกุมิก้าวเข้ามา หอบช่อดอกไม้ซึ่งทั้งช่อทำจากแบงค์พับเป็นดอกกุหลาบ

ไม่รู้เพราะอำนาจเงิน หรือความเนียนอะไรก็แล้วแต่ วันต่อมาคู่ฮิจิกิน ก็ไม่ได้เป็นเพียงคู่จิ้นอีกต่อไป





.................................................


แต่งคู่นี้แล้วรู้สึกได้เผยแพร่ความเป็นตัวเองชอบกลค่ะ รู้สึกเมาและมันส์
อยากแต่งคู่นี้มานานแล้วค่ะ วาดหวังไว้ให้เกรียนแบบแมนๆ
ตั้งแต่เล่นเว็บและลงฟิคในนี้ ช่างเงียบเหงาแตกต่างจากเว็บเด็กดีซะเหลือเกินค่ะ ฮ่าๆ
ขอให้บันเทิงเริงใจกับฮิจิกินนะคะ

@froridy



5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ใช่ฟิคแล้วฮิจจิ้มันเรียกจดหมายรัก // ขอบคุณแต่งค่ะ ทำเอาเขินเลย >///<

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ6 กันยายน 2561 เวลา 08:51

    เป็นฟิคที่น่ารัก เกรียนๆเหมาะกับคู่นี้มากเลยค่ะ เอาใจเราไป///-/// แด่ฟิคแรกที่อ่านแล้วฟิน+เขิน//บิดตัว

    ตอบลบ
  3. เป็นฟิคที่น่ารัก แงงง แต่งคู่นี้อีกหน่อยย;-;

    ตอบลบ
  4. น่ารักมากกก เขินนนนนนนน คนส่งมาด้วยอ่ะ แงงงงงงงงงงงงงงงงงง แม่คะหนูเขินน

    ตอบลบ
  5. เรื่องน่ารักมากเลย ชอบบบบบบบบ

    ตอบลบ