Shot fiction : My love in my life
Author : froridy
Relationships : Aomine Daiki X
Momoi Satsuki
Fandom : Kuroko no basuke
Warning : Normal
Note : ฟิคสั้นมาก...แต่งแบบล้วงลึกทะลวงใจ
พล็อตทั่วไปจนเดาได้ แต่ตั้งใจให้ลึกซึ้ง 555 อาจมีงงนิดๆ ตอนแต่งก็คิดว่าเรากำลังแต่งอะไรหว่า ฮ่าาา
Summary: แด่กำแพงแห่งรักที่ไม่เคยพังทลาย...แต่รักยังดำรงอยู่ตลอดไป
“ไดจังรู้ไหม
ว่าฉันน่ะรักนายมาตลอดเลยนะ” โมโมอิเอ่ยขึ้นตอนที่กำลังไกวชิงช้าอยู่ข้างๆ
ชายหนุ่ม เธอเอ่ยด้วยเสียงสดใสเริงร่า ราวกับว่าไม่ทรมานในถ้อยคำเหล่านั้น
“ฉันจำได้ว่าเราอยู่ด้วยกันมานานแค่ไหน
และฉันก็มีแต่นายจริงๆ” เธอดีดตัวเองไปให้สูงขึ้นและถอยกลับมา
ผมสีกุหลาบสะบัดพลิ้ว เธอยังงดงามไม่เสื่อมคลาย ราวกับว่าหยุดเวลาไว้ตอนอายุยี่สิบกว่าๆ
สวนทางกับเขาที่ดูแก่เกินวัยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
อาโอมิเนะถอนใจ
เขาไกวชิงช้าเอื่อยเฉื่อย โมโมอิหัวเราะคิกใส่เขา “อย่าทำตัวแก่อย่างงั้นสิไดจัง
หน้าย่นหมดแล้ว”
“เรื่องของฉันเถอะน่า...ว่าแต่”
อาโอมิเนะหยุดเสียงไปพักหนึ่ง หญิงสาวหันมามองด้วยดวงตาใสแจ๋ว “เธอรักฉันจริงๆ
หรอซัทสึกิ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
เธอตอบอย่างไม่เขินอาย “รักรองจากพ่อแม่ของฉันเลยล่ะ”
“ถ้าชัดเจนขนาดนี้
แล้วทำไมเธอถึงไม่เลือกฉันตั้งแต่แรกล่ะ” เขาถามเสียงขุ่น โมโมอิส่ายหัวไปมา “นายก็น่าจะรู้นี่ไดจัง
เราอยู่ด้วยกันมาตลอด เราสนิทสนมกันม้ากกก” เธอลากเสียงสูง “ฉันคิดมาตลอดว่าไดจังน่ะเหมือนน้องชายฉันเลย
แล้วฉันก็คิดว่านายคงจะเห็นฉันเป็นพี่สาว”
“ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น”
เขาปฏิเสธ โมโมอิยิ้มจางๆ “นั่นสิน้า เพราะความไม่รู้และการคิดไปเองนี่แหละ
ที่ทำให้เราไม่ได้เริ่มต้นกัน อ้อ! แล้วนายก็ไม่เคยบอกรักฉันด้วย”
“ใครมันจะไปรู้”
“นั่นสิ
เราไม่รู้ว่าเรารักกัน นี่...รู้ไหม ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะบอกรักนายตั้งแต่ยังอยู่ในตู้อบเลยล่ะ”
“หึ
ยัยบ้า” อาโอมิเนะแค่นหัวเราะ โมโมอิยังเพ้อฝันได้พิลึกกึกกือเหมือนเดิม
“ถ้าเธอรักฉัน
แล้วสามีเธอล่ะ?”
“อืม...ฉันก็รักเขาเหมือนกัน
เขาทำให้ชีวิตของฉันเต็มไปด้วยความสุข
เขาทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก” โมโมอิหันมายิ้มให้ “แม้ฉันจะรักนายขนาดไหน
ถึงจะอยากบอกรักนายตั้งแต่ในตู้อบ แต่ถ้าให้เลือก ฉันก็ยังจะแต่งงานกับเขา”
“โหดร้ายเสียจริงนะ”
อาโอมิเนะถอนหายใจ “เธอแทงฉันสิบกว่าแผลแล้ว ไม่รู้หรือไง”
“ขอโทษจริงๆ
นะ แต่มันไม่เหมือนกันนี่” โมโมอิม้วนปอยผมเล่น “คนที่รักตลอดไปจนวันสุดท้ายแม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
กับคนที่เราอยากเคียงข้างตลอดเวลาที่เหลืออยู่”
“พวกเราทำให้เรื่องของเรามันยากเกินไป”
อาโอมิเนะกล่าว โมโมอิพยักหน้า “ใช่ คงเพราะเรากลัวว่ามันจะเปลี่ยนไป
ความรักมันทำลายสัมพันธภาพแบบเพื่อนได้ คนที่เป็นเพื่อนกันมายาวนาน
พอรักกันได้สองปีก็เลิกรา มองหน้ากันไม่ติด ไม่ใช่ทุกคนหรอก
เพื่อนสนิทบางคู่ก็กลายเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉา แต่สำหรับพวกเรา...เราต่างรู้ว่าเราเป็นคนยังไง”
โมโมอิเช็ดน้ำตา
“ฉันขอโทษนะที่รักนายแบบนี้”
อาโอมิเนะยิ้มบางๆ
“ฉันรู้ ฉันก็ขอโทษเหมือนกัน”
“ฉันรักนายนะไดจัง”
อาโอมิเนะยิ้มขมขื่น
“ฉันรักเธอ ซัทสึกิ”
โมโมอิยิ้มทั้งน้ำตา
พวกเขายื่นมือมาจับกันไว้ ระหว่างไกวชิงช้าด้วยกัน
“คุณปู่คุยกับใครอยู่หรอครับ”
หลายชายตัวน้อยวิ่งมาหาเขา และถามด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว อาโอมิเนะมองมือที่เหี่ยวย่นของตัวเอง
แล้วชักกลับมาไว้บนตัก จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งลูบหัวเด็กชาย “นางฟ้า...ไม่สิ
เรียกว่ายัยแม่มดน่าจะถูกกว่า”
“เธอสวยมั้ยฮะ”
เด็กชายตาวาว อาโอมิเนะจึงแกล้งทุบหัวสั่งสอน “โอ้ย ปู่ง่า!”
“ไปเล่นต่อไป
ปู่ต้องการความสงบ”
“แบร่
ไปก็ได้ ชิ!”
เด็กชายหันหลังกลับวิ่งไปหาพ่อแม่ของตนอีกฝั่ง อาโอมิเนะยิ้มให้ครอบครัวตัวเอง
และหันไปยิ้มให้ชิงช้าที่ว่างเปล่า
“อีกไม่นานเราคงจะได้พบกัน”
แอบเศร้าเลยค่ะ ฮืออ;_;
ตอบลบ